“That's one small step for man, one giant leap for mankind” ประโยคสุดทรงพลังที่ Neil Armstrong นักบินอวกาศพูดขึ้น หลังจากฝากฝังรอยเท้าไว้บนพื้นผิวดวงจันทร์ แน่นอนว่า “ก้าวอันยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ” นั้นเกิดจากความร่วมมือ และการระดมสมองจากหลากหลายหน่วยงาน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ SAUCONY แบรนด์รองเท้าเก่าแก่จากสหรัฐอเมริกา แล้วอะไรที่ทำให้ SAUCONY เข้ามามีส่วนร่วมกับการเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ เราจะมาเล่าจุดเริ่มต้นให้ฟังกันครับ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในยุค 1960s เมื่อ Hyde Athletic Industries บริษัทรองเท้ากีฬาได้รับสิทธิ์ในการผลิตรองเท้าให้กับกองทัพสหรัฐ ทำให้บริษัทเล็ก ๆ เติบโตจนร่ำรวย และมีกำลังเข้าซื้อกิจการแบรนด์รองเท้าที่เก่าแต่เก๋าอย่าง Saucony เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและเพิ่มพูนประสบการณ์ โดยหลังจากนั้นไม่นาน บริษัทก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมโปรเจกต์ออกแบบ Space Boots กับ NASA องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ เพื่อให้นักบินอวกาศมีรองเท้าประสิทธิภาพสูงใส่ไปทำภารกิจนอกโลก ซึ่ง Saucony เป็นผู้ดูแลการผลิต และการออกแบบทั้งหมด
โดยตัวรองเท้ามาในทรงอ้วนเทอะทะ ซ้อนด้านในด้วยวัสดุหลากหลายอย่าง Kapton วัสดุทนความร้อน, Mylar วัสดุที่เป็นฉนวนไฟฟ้า และ Dacron เส้นใย Polyester ชนิดพิเศษที่แข็งแรงกันเชื้อโรคสิ่งสกปรกได้ดี คลุมด้านนอกด้วยผ้า Chromel ที่มีส่วนผสมของโครเมียมและนิกเกิล ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการเสียดสี กระชับเท้าด้วยสายรัดแบบเข็มขัด และพื้น Silicone Rubber อย่างหนา เพื่อให้ยึดเกาะได้ทุกพื้นผิว
ในยุคนั้นจึงมีนักบินอวกาศในองค์กร NASA หลายคนได้สวมใส่รองเท้าบูทคู่นี้ไปเหยียบย่างนอกโลก เริ่มต้นจากภารกิจ Gemini 4 (1965) ที่พา Ed White ขึ้นไปเดินเล่นบนอวกาศสำเร็จเป็นครั้งแรก ต่อด้วยภารกิจ Apollo 7 (1968) โดยกัปตัน Walter Cunningham กับลูกเรืออีก 2 คน ขับยาน Apollo CSM-101 ขึ้นไปโคจรรอบโลกเป็นเวลา 10 วัน ไปจนถึงภารกิจไฮไลต์อย่าง Apollo 11 (1969) ที่ Neil Armstrong และ Buzz Aldrin ใส่ Space Boots ไปประทับรอยเท้าบนพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรก
หลังจากการเยือนดวงจันทร์ได้สำเร็จ ชุดของนักบินอวกาศและรองเท้าจากโครงการนี้ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับแบรนด์กีฬาต่าง ๆ ที่มุ่งมั่นพัฒนาให้รองเท้ามีความยืดหยุ่น เกาะพื้นผิวและดูดซับแรงกระแทกได้ดีกว่าเดิม ซึ่งหลังจาก Hyde Athletic Industries หมดสัญญากับกองทัพแล้ว Saucony ก็เริ่มหันกลับมาโฟกัสกับการทำรองเท้าวิ่งอย่างจริงจัง ก่อนจะให้กำเนิดโมเดลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมาสคอตแบรนด์อย่าง Jazz (1981), Shadow (1985) และ Grid (1991) ซึ่งคุณภาพรองเท้าของ Saucony ก็อยู่ในระดับที่ไม่ธรรมดา จนนิตยสารหลาย ๆ หัวต่างยกให้เป็นแบรนด์ที่มีการใช้วัสดุและการตัดเย็บที่เนี้ยบที่สุด
โดยความขลังเหล่านั้นก็ยังถูกส่งต่อมายังปัจจุบันผ่านไลน์การผลิต Saucony Originals ที่หยิบรองเท้าวิ่งยุควินเทจของ Saucony กลับมาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ สำหรับใครที่สนใจ สามารถเข้าไปชมคอลเลคชั่นรองเท้าล่าสุดจาก Saucony Originals ได้แล้ววันนี้ที่แอพพลิเคชั่น CARNIVAL และเว็บไซต์ https://carnivalapp.page.link/JRnC หรือที่หน้าร้าน Carnival สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว และ เมกา บางนา