ชวนรู้จักตัวละครในคอลเลคชั่นสุดพิเศษจาก CARNIVAL® และ Toy Story บทที่ 1 "Friends & Foes" โดย CARNIVAL ได้หยิบเอาตัวละครที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงมาถ่ายทอด ทั้งผองเพื่อนสุดน่ารัก และเหล่าคู่ปรับวายร้ายที่สร้างเรื่องราวอันน่าจดจำ วันนี้เราจะพาทุกคนเรียนรู้เกล็ดเล็กๆ ตัวละครเหล่านี้กัน! หวังว่าเรื่องราวเหล่านี้จะทำให้ทุกคนหายคิดถึงกันไม่มากก็น้อย แต่ถ้าใครยังไม่จุใจ ไปติดตามคอลเลคชั่น CARNIVAL® & Disney/Pixar's Toy Story Collection Chapter 1 "Friends & Foes"!
โบ พีป (Bo Peep) สาวน้อยเลี้ยงแกะแฟนสาวของวู้ดดี้นั้น เป็นตุ๊กตาถ้วยเปลือกไข่ (porcelain) แท้จริงแล้วเป็นส่วนนึงของโคมไฟข้างเตียงของเด็กน้อย หลังจากที่ออกจากบ้านของ Molly น้องสาวของ Andy ตามที่เราเห็นในอนิเมชั่นสั้นเรื่อง Lamp Life
ตัวละครของเธอได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องหญิงเลี้ยงแกะกับชายกวาดปล่องไฟ “The Shepherdess and the Chimney Sweep” นิทานปรัมปราของดัชที่ว่าด้วยเรื่อง ‘ของเล่นในห้องเด็กที่มีชีวิตขึ้นมาเมื่อไม่มีคนมองเห็น’ เช่นเดียวกับธีมของ Toy Story นั่นเอง โดยชื่อของ Bo Peep ก็ยังมีที่มาจากเพลงกล่อมเด็กชื่อ Little Bo-Peep อีกด้วย
การพัฒนาของ Bo Peep จาก Toy Story (1995) มาสู่ Toy Story 4 (2019) นั้นก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านบทที่มีความแข็งแกร่งและพึ่งพาได้ และความละเอียดของโมเดลตัวละครที่สวยงาม เรียกได้ว่ามีความลุ่มลึกมากกว่าเดิมในทุกด้าน
ไดโนเสาร์น้อยขี้กลัวตัวนี้ได้อินสไปร์มาจากในสมัยนั้นเป็นยุคที่หนัง Jurassic Park (1993) กำลังดังพอดี จากภาพลักษณ์ ของ Tyrannosaurus Rex ไดโนเสาร์ผู้ดุร้ายน่าเกรงขาม ทางทีมงานจึงมองว่าคงเป็นเรื่องน่าสนุกดีที่ จะให้ Rex ของเราเป็นไดโนเสาร์ขี้กลัวและขี้กังวลแทน
Rex ยังชอบโควทบทพูดของ George McFly คุณพ่อขี้กังวลในเรื่อง Back to the Future อย่างคำว่า “ฉันไม่ชอบการเผชิญหน้า!” และ “ฉันไม่คิดว่า ฉันจะรับการปฏิเสธนั้นได้นะ!” ซึ่งในหนังสั้นเรื่อง PartySaurus Rex (2012) เขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะ ‘ไดโนเสาร์ปาร์ตี้’ (แม้จะโดยบังเอิญ) และกลายเป็นคนที่มั่นใจมากขึ้นด้วยนะ!
โดย Rex เป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมในหมู่แฟนๆเป็นอย่างมาก ด้วยนิสัยขี้กังวลแต่ก็น่ารัก ถึงขั้นได้ไปโผล่เป็น Cameo ในหนังเรื่องอื่นๆของ Pixar อย่าง Monster, Inc. และในรูปแบบ easter egg ไม่กี่วิใน WALL E (ในฉากตอนเปิดท้ายรถ)
คู่สามีภรรยาหัวมันฝรั่งนี้เป็นตัวละครสำคัญที่สร้างสีสันให้กับแฟรนไชส์ของ Toy Story โดยเฉพาะ Mr. Potato Head มันฝรั่งแยกส่วนได้ผู้มีนิสัยอารมณ์ร้อน ฉุนเฉียวง่าย ชอบพูดประชดประชัน แต่ภายในนั้นมีจิตใจที่ดีงาม และพร้อมช่วยเหลือผองเพื่อนอยู่เสมอ และด้วยอารมณ์ขันที่ไม่เหมือนใครทำให้สร้างเสียงหัวเราะได้ทั้งในจอและนอกจอ
ด้วยคาเเรคเตอร์ที่ชัดเจนนอกจากภาพลักษณ์แล้วส่วนสำคัญคือเสียงพากย์จากดาราตลกชั้นครู Don Rickles ที่เล่นมาหมดเเล้วไม่ว่าจะเป็น หนัง, ซิทคอม, ทอล์กโชว์ หรือ ยืนเดี่ยว ด้วยภาพลักษณ์โฉ่งฉ่างปากร้าย แต่ภายในใจดีนั้นทำให้ทั้งเขาและ Mr. Potato Head เป็นที่รักของผู้คนมากมาย
Don Rickles ให้เสียงพากย์ Mr.Potato Head มาทุกภาค แตน่าเสียดายที่เขาจากเราไปก่อนในปี 2017 ก่อนจะมีโอกาสได้พากย์ใน Toy Story 4 (2019) แต่ด้วยความรักและเคารพทางทีมงานของ Toy Story 4 (2019) ก็ยังใช้เสียงของ Don Rickles มาพากย์ได้อยู่ ด้วยการใช้เสียงร่วมสองทศวรรษของการเป็น Mr. Potato Head มาตัดต่อเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นเกียรติแก่การจากไปของ Don Rickles
Carnival Fun Fact : ของเล่น Mr.Potato Head นั้นมีอยู่จริงๆจากบริษัท Hasbro และ Playskool ตั้งแต่ช่วงยุค 50 แล้ว และในปี 1952 ยังกลายเป็นของเล่นแรกที่โฆษณาทางทีวีของอเมริกาอีกด้วย
Evil Emperor Zurg หรือรู้จักกันในชื่อ Zurg วายร้ายอวกาศใน Toy Story 2 ศัตรูตัวฉกาจของ Buzz Lightyear ที่ภายหลังในเรื่องเราได้รู้ความจริงว่า Zurg เป็นพ่อของ Buzz ผ่านประโยค ‘I am your father’ ซึ่งเป็นการล้อเลียนหนังดังอมตะอย่าง Starwars The Empire Strikes Back ในตอนที่ Darth Vader เผยกับพระเอก Luke Skywalker ว่าเขาเป็นพ่อด้วยประโยค ‘I am your father’ เช่นกัน
รูปร่าง วิธีการพูด และเสียงพากย์ของ Zurg นั้นอินสไปร์มาจาก Darth Vader อย่างชัดเจน แต่ยังไงก็ตามในภาพยนตร์เดี่ยวของ Buzz เรื่อง Lightyear (2022) เราได้รู้ความจริงว่า Zurg แท้จริงแล้วเป็นตัวของ Buzz เองจากในอนาคต ด้วยเหตุผลที่ว่าทางทีมงานผู้เขียนบทอยากให้ศัตรูที่แท้จริงของ Buzz เป็นตัวของเขาเอง
คาวเกิร์ลหญิงแกร่งประจำแฟรนไชส์ Toy Story เป็นของเล่นเพศหญิงเดียวในเรื่องที่เป็นของ Andy นอกนั้น (เช่น Bo Peep, Mrs.Potato Head, และ Barbie เป็นของ Molly น้องสาวของ Andy) ด้วยคาเเรคเตอร์ที่น่าจดจำ เรื่องความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว เป็นเหมือนตัวแทนภาพลักษณ์ที่ดีของวัฒนธรรมคาวเกิร์ลในสหรัฐ ทำให้ตัวละคร Jessie ได้รับรางวัล ‘Patsy Montana Entertainer Award’ จาก National Cowgirl Museum and Hall of Fame
เดิมทีแล้ว Jessie เกือบจะไม่มีบทบาทใน Toy Story 2 (1999) แล้ว เพราะเดิมทีเธอเกือบได้เป็นของเล่นต้นกระบองเพชรชื่อ Senorita Cactus ตัวร้ายในภาคนั้น แต่โชคดีที่ Nancy ภรรยาของ John Lasseter ผู้กำกับ แนะนำให้มีตัวละครนำหญิงที่แข็งแกร่งในเรื่อง ซึ่งพัฒนามาเป็นคาวเกิร์ล Jessie ของเราแทน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1988 ทางทีมงาน Pixar ได้สร้างอเมชั่นความยาว 5 นาที ในชื่อ “Tin Toy” ซึ่งเป็นเรื่องราวของเจ้าหุ่นสังกะสีที่ต้องเผชิญหน้ากับเด็กทารกยักษ์ เเละต้องคอยหลบหนีจากการเล่นเเรง ๆ ของเจ้าเด็กจอมซนอยู่เสมอ เเละด้วยไอเดียสุดเจ๋งในการนำเสนอ ความตื่นเต้นของโลกไซส์จิ๋วในมุมมองของเหล่าของเล่น นั้นทำให้ Disney ได้จุดประกายชวนให้ทีม Pixar เอาไอเดียนี้ไปต่อยอดเพื่อทำหนังใหญ่ เเละหนังเรื่องนั้นมีชื่อว่า“Toy Story”
แน่นอนว่า Tinny ก็คือตัวเอกในเรื่อง Tin Toy ซึ่งเป็นของเล่นของทารก Billy และเกือบจะได้เป็นตัวเอกของ Toy Story (1995) แทนคาวบอย Woody แล้วด้วยเราเห็น Tinny อีกครั้งใน Toy Story 4 (2019) ในฐานะเจ้าของ”คลับลับ” ใต้ตู้พินบอล Tiki Party ในร้านขายของเก่า เป็นการปรากฏตัวของ Tinny ครั้งแรกใน 30 ปีที่ทำให้แฟนพันธ์แท้ของ Toy Story ฮือฮากันด้วยความดีใจ (หากไม่นับการปรากฏตัวของ Tinny ในฟุตเทจวิดิโอเก่าใน Toy Story 2)
หมูออมสินผู้รอบรู้ พูดจาตรงไปตรงมา Hamm มักจะพูดเรื่องจริงที่คิดกับของเล่นตัวอื่นๆเสมอ เป็นเพื่อนซี้กับ Mr.Potato Head และชอบดุ Rex อยู่เสมอ
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นไม่ใช่ตัวร้ายในหนังภาคไหนเลย แต่ในจินตนาการของ Andy แล้วเขาก็ยังเป็นจอมวายร้ายที่รู้จักกันชื่อ ‘Evil Dr.Porkchop’ ในฐานะ ‘บทตัวร้าย’ เวลาที่ Andy นำเหล่าของเล่นมาเล่นกัน โดยเป็นบทหมูจอมเผด็จการที่มีสมุนเป็นเหล่าทหารตัวเล็ก และเป็นตัวร้ายที่ Woody และ Buzz ต้องมาปราบ แต่นอกบทที่ Andy มอบให้แล้วตัว HAMM เองก็เป็นเพื่อนกับแก็งของเล่นตามปกติ
ทางเทคนิกแล้ว HAMM ไม่ใช่ของเล่นแต่เป็นหมูออมสินที่ใช้หยอดเหรียญได้ปกตินี่แหละ แต่ในภาค 2 Andy ทำฝากั้นเหรียญหายทำให้ต้องใช้จุกก็อกไวน์มาอุดแทน
Slinky Dog หมาดัชชุนยืดหยุ่นจอมกวนของเราได้อินสไปเรชั่นดีไซน์มาจากของเล่น Slinky ของเล่นสปริงทำจากโลหะหรือพลาสติก จากบริษัท James Industries และมีไลน์ของเล่นแยกในช่วงปี 1954 เป็น Slinky Dog และ Slinky Train ออกแบบโดย Helen Herrick Malsed
Slinky Dog เป็นที่นิยมมากในหมู่เด็กๆยุค 1950-1970 โดยทางบริษัทอนุญาติให้ Bud Luckey อนิเมเตอร์ของ Pixar ออกแบบใหม่ให้เหมาะกับรูปแบบอนิเมชั่นมากขึ้น จึงกำเนิดเป็นหมาดัชชุนสุดน่ารักที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้
Bensons สองวายร้ายชวนหลอนของ Toy Story 4 (2019) ที่น่าจดจำนี้เป็นสมุนของ Gabby Gabby ตุ๊กตาเจ้าแม่ประจำร้านของเก่า โดยเหล่า Bensons เป็นหุ่น Ventriloquist หรือหุ่นเชิดมือดัมมี่ ไว้สำหรับการแสดงหุ่นเชิดที่ นักเชิดหุ่นจะพูด ‘ผ่าน’ หุ่นดัมมี่เหล่านี้ที่ขยับปากตาม
“หุ่น Bensons นับเป็นตัวละครที่น่ากลัวที่สุดที่พวกเราเคยสร้างขึ้นมา” โดย Mark Nielsen โปรดิวเซอร์ของ Pixar กล่าวเอาไว้ ด้วยดีไซน์ที่โฟกัสไปที่ความสมจริงเป็นหลัก
ย้อนกลับไปสมัย Toy Story ภาคแรก หุ่น Woody คาวบอยหนุ่มพระเอกของเรื่องเกือบจะเป็นหุ่นเชิด Ventriloquist แล้ว ถ้าไม่ได้ไอเดียของนักออกแบบอย่าง Bud Luckey ให้เปลี่ยนเป็นตุ๊กตาชักรอกแทน
ส้อมน้อยผู้รักการอยู่ในถังขยะ ตัวละครอันน่าสงสารของ Toy Story 4 (2019) ผู้ครองใจและเรียกนํ้าตาจากเหล่าคนดูกันไปมหาศาล แต่จริงๆแล้ว Forky ก็ไม่ใช่ส้อมเสียทีเดียว เป็น ‘Spork’ หรือส้อม + ช้อน ที Bonnie สร้างขึ้นมาเป็นของเล่น
Forky ชื่นชอบถังขยะและคิดว่าตัวเองเป็นขยะ จนกระทั่งผ่านเรื่องราวการผจญภัยกับวู้ดดี้และผองเพื่อนทำให้เขาเข้าใจและยอมรับตัวตนของการเป็น ‘ของเล่น’ ชิ้นโปรดของ Bonnie
เนื่องจากโมเดลของ Toy Story 4 มีความละเอียดเป็นอย่างมาก ทำให้ Forky มีโมเดลกากเพชรเรื่องเเสง 5,330 ชิ้นแปะติดกาวอยู่ทั่วตัวของเขา
“สตันท์แมนที่เก่งที่สุดในแคนาดา” Duke Caboom โมเดลแอคชั่นสตันท์แมนบนมอเตอร์ไซค์ยุค 70s พากย์เสียงโดยชายผู้เป็นที่รักของคนทั่วโลก Keanu Reeves เป็นอีกตัวละครที่มาสร้างสีสันใน Toy Story 4 (2019)
เขาเป็นของเล่นที่มีอุปนิสัยโลดโผนและชอบเล่นใหญ่ แต่มีอดีตที่น่าเศร้าด้วยปมในใจจากการที่ทำให้ Rejean เจ้าของเก่าของเขาผิดหวัง จากความคาดหวังที่ว่าเขาจะสามารถกระโดดได้ไกลเหมือนดั่งโฆษณา
Duke Caboom มีคาแรคเตอร์ที่น่าจดจำ จนได้ไปอยู่ในเปลเด็กเล่นของ Jack-Jack ในอนิเมชั่น Incredibles 2 นอกจากนี้ยังโผล่มาหลังเครดิตของ Toy Story 4 ในการล้อเลียนฉากเปิดสุดกวนของ Pixar โดยมี Duke Caboom แทนที่ Luxo Jr.โคมไฟน้อยกระโดดใส่ตัว i ที่เราคุ้นเคยกัน
รถบังคับสุดน่ารักที่อยู่คู่แฟรนไชส์ Toy Story มาตั้งแต่ภาคแรกนี้ สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง แต่จะเสียการควบคุมทันทีที่มีคนบังคับเขาด้วย รีโมท
ชื่อของ Rc ย่อมาจากความเป็นไปได้สามอย่างที่บ่งบอกตัวตนของเขา (remote control, radio controlled และ race car)
ถึงแม้เขาจะพูดไม่ได้แต่ก็สามารถสื่อสารได้ผ่านเสียง ปุ้บๆ ปิ้บๆ และใช้ล้อหมุ่นสื่ออารมณ์ โดยเหล่าของเล่น (โดยเฉพาะ Mr.Potato) ก็สามารถเข้าใจเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Green Army Men คือเหล่าทหารตัวเล็ก 200 ตัวของ Andy นำทีมโดยจ่า หรือ Sarge เป็นโมเดลหุ่นทหารพลาสติกสีเขียวที่เป็นของเล่นสุดคลาสสิคและเป็นที่นิยมมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเหล่าทหารนี้ถูกบรรจุไว้ในถังกล่องชื่อ Bucket O’ Soldier
เนื่องจากของเล่นพลาสติกสไตล์นี้นิยมทำฐานให้สะดวกต่อการตั้งยืน ทำให้เวลาพวกเขามีชีวิตขึ้นมาในโลกของ Toy Story จังหวะการเดินจึงมีความเฉพาะตัวมากๆ ทำให้เหล่าอนิเมเตอร์ของ Pixar ต้องศึกษาวิธีการเดินด้วยการติดบอร์ดไว้กับรองเท้า และถ่ายวิดิโอไว้เพื่อบันทึกท่าทาง
ตุ๊กตาโบราณประจำร้านของเก่า Gabby Gabby เป็นตัวร้ายหลักของ Toy Story 4 (2019) ด้วยเบื้องหลังที่น่าเศร้า เธอเป็นตุ๊กตาโบราณที่สูญเสียกล่องเสียงไป ทำให้ Harmony เจ้าของเก่าไม่รักเธออีกต่อไป
ด้วยความที่เธอเป็นของเล่นเก่าสมัยเดียวกับวู้ดดี้ แต่เธอค้นพบว่า ‘กล่องเสียง’ ของวู้ดดี้ยังอยู่ในสภาพดี
เธอจึงตั้งใจจะทำทุกวิถีทางที่จะชิงกล่องเสียงของวู้ดดี้มาเป็นของตัวเองให้ได้ เผื่อว่า Harmony จะกลับมารักเธอเหมือนเดิม
หลังจากตอนจบของ Toy Story 4 เธอกลับใจกลายเป็นของเล่นที่ดีแล้วหลังจากได้รับความรักจากเจ้าของใหม่ที่พบเธอในสนามเด็กเล่น
Big Baby หุ่นตุ๊กตาเด็กทารกขนาดเสมือนจริง มือขวาของ Lotso ที่ถูกลืมทิ้งไว้ที่จุดพักรถพร้อมกัน และกลายมาเป็นมาเฟียผู้คุมกฏแห่ง Sunnyside Daycare
Big Baby มีลวดลายที่คล้ายกับของเล่นที่ Sid วาดไว้ โดยทีมผู้สร้างบอกว่ามันคล้ายกับรอยสักของคนที่อยู่ในคุก เพิ่มความดาร์กของภาค 3 เข้าไปอีกขั้น
ในตอนจบที่ Big Baby โยน Lotso ลงที่ทิ้งขยะเป็นการเลียนแบบฉากของ Starwars VI Return of the Jedi ในฉากที่ Darth Vader โยน Emperor Palpatine ลงไปในเตาปฏิกรณ์
เจ้าพ่อหมี Teddy จอมเผด็จการแห่ง Sunnyside Daycare ผู้คุมจอมโหดผู้ขังของเล่นต่างๆอยู่ในกล่องและตะกร้า (เปรียบเสมือนคุก) ประจำ Toy Story 3 (2010) ผู้วางกฏเกณฑ์เเสนเข้มงวดให้ชีวิตของเล่นที่นี่ไม่มีความสุข Lotso เป็นตัวร้ายที่ร้ายที่สุดจากแฟรนไชส์ Toy Story เนื่องจากกลุ่มคนดูช่วงทดลองฉายเห็นใจ Lotso มากเกินไป เนื่องจากเบื้องหลังที่น่าสงสาร ทางทีมงานจึงเพิ่มดีกรีความร้ายให้มากขึ้น
เบื้องหลังอันน่าเศร้าที่ว่าก็มาจากเรื่องราวของ Lotso เคยเป็นตุ๊กตาหมีสุดพิเศษที่เป็นของขวัญคริสมาสให้กับหนูน้อย Daisy และกลายเป็นของเล่นชิ้นโปรดของเธอ จนวันนึงเขาและเพื่อนๆที่ถูก “ลืม” ทิ้งไว้ที่จุดพักรถ พวกเขารอนานแสนนานแต่ก็ไม่มีใครมารับ จนตัดสินใจหาทางกลับบ้านกันเองอย่างยากลำบาก แต่เมื่อกลับมาถึงกลับพบว่า Daisy ได้ซื้อตุ๊กตาหมี Lotso ตัวใหม่มาแทนที่
ในปี 2014 ดิสนีย์ยังโดนฟ้องโดยบริษัท Diece-Lisa Industries เนื่องจากชื่อของ Lotso ไปคล้ายกับ Lots of Hugs ตุ๊กตาหมีของพวกเขาที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 1995
คู่หูสุดกวนประจำงานคารนิวัล Ducky & Bunny คือตัวละครสุดฮาที่มาสร้างสีสันใน Toy Story 4 (2019) เป็นของเล่นที่กร้านโลก มีนิสัยก๋ากั่น เเละเป็นส่วนนึงของรางวัลในงานคารนิวัลที่รอคอยให้เด็กมาเล่นเกมให้ชนะและพาพวกเขากลับบ้าน
Ducky & Bunny พากย์เสียงโดย Keegan-Michael Key และ Jordan Peele คู่หูสุดฮาที่รู้จักในชื่อ Key & Peele ดาราตลกประจำช่อง Comedy Central โดยทั้งคู่เป็นคู่ซี้ในชีวิตจริงด้วยเคมีที่พุ่งทะลุจอ และมุกตลกที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เรียกเสียงฮาจากผู้คนได้ทั้งในและนอกจอ
Key และ Peele ร่วมงานกันมานานนับ 10 ปี และ Ducky & Bunny เป็นการกลับมาร่วมงานในฐานะนักพากย์เสียงอนิเมชั่นหลังจากผลงานพากย์เป็นคู่หูหมาป่า Alpha & Beta ในอนิเมชั่นของ Warner Bros เรื่อง Storks (2016)
Duck & Bunny มีนิสัยสุดกวนที่ชอบจินตนาการถึงฉากที่พวกเขาเลิกแกล้งเป็นของเล่นและลุกขึ้นจู่โจมมนุษย์ โดยพวกเขาจินตนาการเป็นแผนการในการ ‘จัดการ’ เจ้าของร้านขายของเก่าด้วยวิธีการต่างๆ เป็นมุกตลกร้ายของ Toy Story 4 ที่อ้างอิงถึงการที่ Jordan Peele เป็นผู้กำกับหนังสยองขวัญดาวรุ่ง ที่มีผลงานขึ้นหิ้งมากมายอย่าง Get Out (2017), Us (2019), และ NOPE (2022)
นอกจากเจ้าของเล่นดัชชุน Slinky Dog แล้วยังมีหมาดัชชุนตัวเป็นๆในบ้านของ Andy นั่นก็คือเจ้า Buster หมาน้อยจอมซนผู้ช่วยเหลือเหล่าของเล่นอยู่เสมอ
Buster เป็นหนึ่งในไม่กี่ตัวละครที่ไม่ใช่ของเล่น ที่รับรู้ว่าเหล่าของเล่นนั้นมีชีวิต และยังเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือวู้ดดี้และผองเพื่อนในสถานการณ์ต่างๆเช่นใน Toy Story 2 (1999) Buster ได้พา Woody ไปช่วยเหลือ Wheezy ออกมาจากการนำไปขายที่ Garage Sale
ตำรวจจิ๋วจอมแก่นนี้เป็นกำลังสำคัญใน Toy Story 4 (2019) เธอเป็นตัวละครคู่หูของ Bo Peep ที่คอยช่วยเหลือ เเละให้กำลังใจผองเพื่อนในการผจญภัย โดยเฉพาะการเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับ Bo Peep ในช่วงเวลาที่คับขัน
เธอมาจากชุดของเล่นตำรวจจิ๋วในสมัยปี 80 โดย วิธีการพูดของเธอในเรื่องมีลักษณะเดียวกับตำรวจในชีวิตจริงเลย โดยเฉพาะรหัสปฏิบัติการอย่าง 10-4 (เทน โฟร์) ที่แปลว่า ‘รับทราบ’ ในชีวิตจริง
ใน Toy Story 3 (2010) เราได้พบกับแก็งของเล่นของ Bonnie ในบ้านใหม่ของที่พวกวู้ดดี้ได้ย้ายเข้าไปอยู่ และสองตัวละครสำคัญก็คือ Buttercup และ Trixie
ถึงแม้ว่า Buttercup จะมีภาพลักษณ์ภายนอกเป็นยูนิคอร์นน้อยแสนน่ารัก แต่มีนิสัยขวางโลกและชอบประชดประชันไม่แพ้ Mr. Potato Head เลยทีเดียว พากย์เสียงโดย Jeff Garlin ดาราตลกชื่อดัง
Trixie คือของเล่นไดโนเสาร์ไทรเซราทอปที่มาจากไลน์การผลิตเดียวกันกับ Rex และเธอก็เป็นเนิร์ดที่ชื่นชอบคอมพิวเตอร์และการเล่นวิดิโอเกมเหมือนกัน โดยย้อนกลับไปใน Toy Story ภาค 2 เราสามารถพบเห็นสติ๊กเกอร์คล้ายเธอแปะอยู่ข้างคอมพิวเตอร์อีกด้วย
ในคอนเซปอาร์ททั้ง Trixie และ Buttercup เกือบจะเป็นสมุนในแก็งของ Lotso
Rocky Gibraltar หุ่นนักกล้ามพูดน้อยนี้อยู่กับวู้ดดี้และผองเพื่อนมาตั้งแต่ Toy Story ภาคแรก แต่แทบไม่เคยพูดออกมาเลย จนกระทั่งในวิดิโอเกมภาค Toy Story Animated Storybook และ Toy Story Activity Center ที่เราเห็น Rocky พูดคุยเป็นครั้งแรก
ชื่อของ Rocky รวมถึงเครื่องแต่งกายต่างๆและโลโก้ของเข็มขัดเเชมป์ของเขาเป็นการอ้างอิงถึง Rock of Gibraltar สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของสหราชอาณาจักร
Rockmobile ตัวหุ่นของเล่นที่ Sid เด็กนรกนำมาดัดแปลงนั้นเป็นชิ้นส่วนแบบเดียวกับ Rocky Gibraltar
Lenny the Binocular หรือที่รู้จักกันในชื่อ Lenny เป็นของเล่นไขลานที่ใช้งานเป็นกล้องส่องทางไกลได้ โดยมีบทสำคัญในเรื่องราวของ Toy Story ในการช่วยให้วูดดี้มองเห็นได้ในระยะไกล ถึงแม้ว่าในตอนแรกพวกพ้องจะนึกว่าเขาพูดไม่ได้ก็ตาม
Lenny the binocular มีบทพูดแค่ใน Toy Story ภาคแรกเท่านั้นและถึงอย่างงั้นเองเขาก็มีบทพูดแค่ 3 ถึง 4 ประโยคเท่านั้น
ชื่อของ Lenny มาจากการเล่นคำว่า Lens ที่มาจากเลนส์ของกล้อง
ถึงจะไม่ใช่ของเล่นแต่ก็มีในลายเสื้อนะ! Al McWhiggin หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Chicken Man” นักสะสมจอมละโมบ เจ้าของร้านขายของเล่น Al's Toy Barn ตัวร้ายประจำ Toy Story 2 (1999) ผู้ลักพาตัว Woody ไปขายให้พิพิธภัณฑ์ของเล่นที่ญี่ปุ่น
โดยเซทของเล่นหายากที่ Al วางแผนจะนำไปขายคือเซทของเล่นเก่าสไตล์คาวบอย ที่มีตัวละครอย่าง Jessie กับ Bullseye ของเล่นสำคัญที่จะกลายเป็นคู่หูของ Woody ในอนาคต และ Stinky Pete ของเล่นนักขุดเหมืองตกยุคที่ถูกของเล่นนักบินอวกาศแย่งความนิยมไปหมด
ใน Toy Story ภาคแรกระหว่างที่ Woody และ Buzz ถูกขังอยู่ในบ้าน Sid นั้นโฆษณา Buzz Lightyear ที่ฉายก็โฆษณาร้าน Al’s Toy Barn
“ก็นายมีฉันเป็นเพื่อน” ปิดท้ายด้วยตัวละครนึงที่เป็นเหมือนศูนย์รวมใจสำหรับของเล่นทั้งเรื่องก็คือ Andy เด็กชายผู้เป็นเจ้าของเหล่าของเล่นพวกพ้องของ Woody และ Buzz Lightyear ตั้งแต่ Toy Story (1995) ถึง Toy Story 3 (2010) ตั้งแต่เด็กไปจนถึงวัยที่ต้องจากบ้านไปเรียนวิทยาลัย โดย John Morris ผู้พากย์เติบโตมาพร้อม Andy เลยตลอดระยะเวลา 15 ปี
Andy คือตัวละครใน Toy Story (1995) ที่ครองบทพูดแรกและบทพูดสุดท้ายในหนังเรื่องเดียวกัน
โดยบทพูดแรกคือการเล่นบทบาทกับ Mr. Potato Head ในฉากปล้นธนาคาร และบทพูดสุดท้ายในเรื่องคือตอนที่เจอน้องหมานั่นเอง
ใน Toy Story 3 (2010) ตอนที่ Andy กำลังจะไปเรียนวิทยาลัยเป็นฉากการตัดสินใจที่เลือกระหว่าง Buzz หรือ Woody เป็นฉากที่คล้ายตอน Toy Story (1995) ที่ Andy เลือกระหว่าง Buzz และ Woody ว่าจะให้ใครนอนด้วย ในตอนนั้น Andy เลือก Buzz แต่คราวนี้เป็น Woody ที่จะพาไปวิทยาลัยด้วย
มิตรภาพและเสียงหัวเราะที่สร้างร่วมกันกับเหล่าเพื่อนพ้องทุกตัวละครใน Toy Story เป็นเรื่องที่น่าจดจำ
หวังว่าเรื่องราวเหล่านี้จะทำให้ทุกคนหายคิดถึงกันไม่มากก็น้อย แต่ถ้าใครยังไม่จุใจ ไปติดตามคอลเลคชั่น CARNIVAL® & Disney/Pixar's Toy Story Collection Chapter 1 "Friends & Foes" ได้ในวันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน 2566 นี้!
#ToyStoryCollectionbyCarnival #ToyStory#DisneyPixarToyStoryCollection #carnivalbkk