หวนคืนสู่โลกวิญญาณ "Soul Society" กันอีกครั้ง! เตรียมความพร้อมกับงาน Collaboration สุดพิเศษระหว่าง Carnival เเละ Bleach อนิเมะระดับตำนานที่ทำให้เด็กไทยหลายคนอยากเป็นยมทูต หากนับตั้งแต่การเปิดตัวในครั้งแรกของมังงะในปี 2001 ก็มากกว่า 20 ปีเข้าไปแล้วที่ Bleach อยู่ในใจของแฟนๆ เดนตายทั่วโลกในฐานะการ์ตูนโชเน็นขึ้นหิ้งตลอดกาล ซึ่งก่อนจะไปสัมผัสความไฮป์ของคอลเลคชั่นนี้เราอยากจะชวนเพื่อนๆ ย้อนเวลากลับไปหา 13 หน่วยพิทักษ์ให้หายคิดถึงกันอีกสักครั้งกับ 13 เรื่องราวลับที่อยู่เบื้องหลังตำนานแห่ง “เทพมรณะ”
จารย์ Kubo ผู้หลงใหลในอาชีพวาดการ์ตูนแต่เด็ก
อาจารย์ Noriaki Kubo (โนริอากิ คูโบะ) หรือนามปากกา Kubo Tite (คูโบไทต์) คือผู้อยู่เบื้องหลังตำนานแห่ง “เทพมรณะ” ซึ่งอาจารย์ Kubo เริ่มวาดการ์ตูนตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย และอยู่ชมรมวาดการ์ตูน ซึ่งเขาก็เริ่มส่งประกวดวาดการ์ตูนมาตลอด แม้จะไม่ได้รางวัล แต่ผลงานของเขาเข้าตาบรรณาธิการทำให้ไม่นาน "Ultra Unholy Hearted Machine" การ์ตูนเรื่องแรกของเขาก็ถูกตีพิมพ์ลงนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ฉบับพิเศษในปี 1996 ต่อมาไม่านาน Zombie Powder การ์ตูนเรื่องยาวเรื่องแรกของเขาก็ได้ถูกตีพิมพ์ในปี 2000 ก่อนที่จะเขียนและตีพิมพ์ Bleach ตอนแรกลงโชเน็นจัมป์ในปี 2001
Snipe เทพปืนมรณะ
ในตอนแรกของ Bleach อาจารย์ Kubo เขียนให้คุจิกิ ลูเคียเป็นตัวเอกของเรื่องโดยเธอเป็นคนเดียวในเรื่องเท่านั้นที่ใช้ “เคียว” เป็นอาวุธ และตัวละครอื่นทั้งหมดในเรื่องใช้ “ปืน” จึงเป็นที่มาของ “Snipe” ชื่อเรื่องในตอนแรก ก่อนที่จะเปลี่ยนอีกครั้งเนื่องจากอาจารย์ตัดสินใจไม่ใช้ อาวุธปืนเเต่เปลี่ยนเป็นดาบแทน ซึ่งเรายังสามารถเห็น ลูเคีย ใช้อาวุธเคียได้อยู่ใน The Movie ของ Bleach ภาค Fade to Black ปี 2008
ที่มาของชื่อ Bleach เมื่อโลกไม่มีแค่ขาวและดำ
Bleach ที่มาของชื่อนี้เริ่มมาจากในตอนแรกที่อาจารย์ Kubo หันมาโฟกัสเนื้อเรื่องของเหล่ายมทูต ที่อินสไปร์มาจาก "Shinigami" เทพแห่งความตายของญี่ปุ่นที่สวมเสื้อคลุมสีดำ ที่เป็นเหมือนกับยมทูตในตำนานโบราณ โดยอาจารย์นำมาปรับใช้เป็น 13 หน่วยผู้พิทักษ์แห่งโซลโซไซตี้ ให้ยมทูตแต่งกายสีดำทำให้ชื่อเรื่องตอนแรกคือ “Black” ก่อนที่อาจารย์จะรู้สึกว่ามันง่ายเกินไปจึงใช้ชื่อตรงข้ามที่ไม่ใช่ “White” แต่ใช้คำว่า “Bleach” แทนซึ่งหมายถึงการกัดสี การชะล้างจากขนบทำเนียม ซึ่งล้อกับการที่ตัวร้ายของเรื่องอย่าง อารันคาร์ ใช้ชุดสีขาวที่ปกติแล้วจะเป็นชุดของ “ฝ่ายดี” อีกด้วย
ผู้พิทักษ์สตรอเบอรรี่หัวส้มหวาน
Kurosaki Ichigo คุโรซากิ อิจิโกะ พระเอกของเรื่องนั้นมีอุปนิสัยที่ดุดัน ขึงขัง จริงจัง แต่มักจะโดนแซวจากตัวละครต่างๆ ในเรื่องว่าชื่อของเขานั้นเหมือนกับชื่อผู้หญิงมากกว่า ซึ่งเหตุมาจากชื่อ Ichigo (อิจิโกะ) นั้นมาจากคำว่า "Strawberry" หรือผลสตรอเบอรรี่สุดหวาน แต่เมื่ออ่านคันจิของชื่อเขาจะแปลคร่าวๆ ได้ว่าผู้พิทักษ์ซึ่งเราอาจจะตีความได้ว่าอิจิโกะคือ ผู้พิทักษ์ผู้อ่อนหวาน ก็เหมาะสมดีเหมือนกันนะ
ตัวตึงหน่วย 11 ดุเผ็ดแต่รักความงาม
Zaraki Kenpachi หัวหน้าหน่วยผู้พิทักษ์ที่ 11 นั้นเป็นที่เลื่องลือในเรื่องความแข็งแกร่งไม่เป็นรองใคร และความรักในการต่อสู้ที่เเม้แต่ Kenpachi ชื่อของเขานั้นก็ได้มาจากการสังหาร Kenpachi คนเก่า จนได้ชื่อนี้มา ซึ่งชื่อ Kenpachi นั้นในหนึ่งรุ่นของยมทูตมีได้เพียงคนเดียวและจะต้องเป็นผู้เเข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นถึงจะได้ครอบครองชื่อนี้ ซึ่งทำให้เขาเป็นตัวละครที่มีภาพลักษณ์โหด ดุดัน แต่ยังไงก็ตามเขาก็เป็นคนชอบดูแลผมนะ เพราะว่าผมชี้ๆ ของเขาที่มีกระดิ่งประดับอยู่นั้นต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงหลังอาบนํ้าในการตกแต่งเลยทีเดียว
เรื่องเศร้าๆ ของเจ้า Kon
หลายๆ คนคงคุ้นเคยกับมาสคอตสุดกวนประจำเรื่องอย่างเจ้า Kon ตุ๊กตาวิญญาณที่ใช้ใส่วิญญาณเทียมสำหรับเข้าร่างอิจิโกะขณะเป็นยมทูต ซึ่งแม้ในเรื่องจะมีแก๊กตลกโปกฮาจากเจ้า Kon มากแค่ไหน แต่ว่าเรื่องราวที่อินสไปร์ให้อาจารย์ Kubo ออกแบบเจ้าตุ๊กตาสุดป่วนกลับไม่ค่อยตลกสักเท่าไหร่ เรื่องมีอยู่ว่าอาจารย์พบเห็นเด็กที่โยนของเล่นเก่าทิ้งหลังจากได้ของใหม่กว่า ซึ่งเป็นเรื่องราวคลับคล้ายกับวิญญาณเทียมไม่สมบูรณ์ผู้ถูกทิ้งอย่าง Kon
จาก Ikari สู่ Kurosaki
ความดีงามอีกหนึ่งอย่างของอนิเมะ Bleach คือเพลงประกอบที่เร้าใจและหลากหลายมากๆ เฉพาะเพลงเปิดเรื่อง Opening theme song ก็ปาเข้าไปแล้วมากกว่า 15 เเทร็ค (บางคนอาจจะว่ามันมีเยอะเกินไปซะด้วยซํ้า) แต่รู้หรือไม่ว่าเพลงเหล่านี้ถูกประพันธ์โดย Shiro Sagisu ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบอนิเมะในตำนานอย่าง Neon Genesis Evangelion
งานดีไซน์จากความหลงใหลในเสียงดนตรี
นอกจากเพลงประกอบแล้วขั้นตอนการวาดของอาจารย์ยังไม่เหมือนใคร โดยว่ากันว่าอาจารย์นิยมเปิดเพลงประกอบที่ตั้งให้ตัวละครนั้นๆ ตามความรู้สึกของเพลงที่ทำให้นึกถึงลักษณะนิสัย หรือ ฟีลของตัวละคร เช่น อิจิโกะ จะเป็นเพลง News From the Front ของวง Bad Religion ของลูเคียเป็นเพลง Wing Stock โดย Ashley MacIsaac และเพลง Idioteque จากวง Radiohead สำหรับตัวละครอิชิดะ เป็นต้น
ชื่อตัวร้ายจากนักดีไซน์สุดจ๊าบ
อารันคาร์ตัวแรกที่ อาจารย์ Kubo ออกแบบคือ Ulquiorra Cifer (อุลคิโอร่า) ซึ่งเป็นอารันคาร์ตัวโปรดของแฟน ๆนั้นมีเพลงประจำตัวเป็นเพลง Moonshield จากวง In Flames ซึ่งนอกจากเพลงแล้ว อาจารย์ kubo ยังชื่นชอบงานดีไซน์ และการออกแบบเป็นอย่างมาก ทำให้ ชื่อของเหล่า Espada นั้นมาจากสถาปนิกและนักออกแบบชื่อดังมากมาย อย่าง Ulquiorra เองก็มาจากชื่อของ Patricia Urquiola นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังชาวสเปน และวายร้ายคู่ปรับของอิจิโกะอย่าง Grimmjow ก็อินสไปร์มาจาก Nicholas Grimshaw สถาปนิกชาวอังกฤษ เรียกได้ว่าอาจารย์เป็นแฟนตัวยงของงานสถาปัตย์ดีไซน์เลยทีเดียว
อิโนะอุเอะเจ้าหญิงพลังดอกไม้
อิโนอุเอะ โอริฮิเมะ นางเอกของเรื่องนั้นมีพลังที่เเฝงอยู่ในกิ๊บติดผมรูปดอกไม้สีฟ้าของเธอ ภายในได้ซุกซ่อนขุมพลังขอเหล่าภูติแฟรี่ทั้ง 6 ตน (Shun Shun Rikka) เอาไว้ โดยโอริฮิเมะใช้พวกเขาในการร่ายพลังทั้งการ ป้องกัน ฟื้นฟู หรือโจมตี โดยภูติแฟรี่ทั้ง 6 ก็ถูกตั้งชื่อ
ตามดอกไม้ต่างๆ เช่น Ayame คือ ดอก Iris, Hinagiku คือดอก Daisy, Tsubaki คือดอก Camellia เป็นต้น
เหตุที่ฉากหลังส่วนมากเป็นสีขาว?
Bleach เป็นมังงะที่ภาพสวยมีสไตล์ที่สุดเรื่องหนึ่งของวงการ การออกแบบตัวละครของอาจารย์ Kubo เรียกได้ว่าขึ้นหิ้งเลยทีเดียว แต่จากที่แฟนหลายๆ คนคงสังเกตุกันได้ว่าฉากหลังของมังงะเรื่องนี้นั้นโล่ง ส่วนมากจะเป็นการสู้บนฟ้า ที่ไม่เห็นฉากหลังใดๆ เลย ซึ่งบ้างก็ว่าเป็นเพราะมังงะต้องออก รายสัปดาห์ซึ่งต้องลดความละเอียดของฉากหลังลงเพื่อประหยัดเวลา แต่ว่าอาจารย์ Kubo เองก็มีให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ไว้ด้วย โดยเหตุผลก็คืออาจารย์ต้องการให้ผู้อ่านได้โฟกัสกับตัวละครและสิ่งที่เกิดขึ้นภายในมากกว่านั่นเอง
ภาษามีที่มาจากดีไซน์
เรื่องชื่อและภาษาของตัวละครต่างๆ ใน Bleach ถูกตั้งตามความรู้สึกของอาจารย์ต่อภาษานั้นๆ เช่น เหล่า Arrancar และ Espada ใช้ภาษาสเปนเนื่องจากฟังแล้วรู้สึกถึงแพสชั่นและการใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยง เมื่อเทียบกับฝั่งควินซี่ที่เป็นภาษาเยอรมัน เนื่องจากกลวิธีของพวกเขาที่ไตร่ตรองและมีแบบแผนและกฏเกณฑ์เคร่งครัดกว่านั่นเอง โดยรอยสักของ Yasutora Sado หนุ่มลูกครึ่งเม็กซิกันญี่ปุ่นคู่หูเพื่อนรักของอิจิโกะ ก็มีรอยสักที่แขนที่เขียนว่า Amore e Morte แปลว่าความรักและความตาย (Love and Death)
แฟชั่นสไตล์เทพมรณะ
ด้วยความที่อาจารย์ Kubo เติบโตมาด้วยความหลงใหลในแฟชั่นตั้งแต่สมัยประถมทำให้ อาจารย์ Kubo มีความฝันในการออกแบบเสื้อผ้า โดยเสื้อผ้าแต่ละชุดใน Bleach เป็นชุดที่ "อาจารย์อยากใส่เอง" แต่ไม่มีจำหน่าย ซึ่งหากใครเป็นแฟน Bleach “เทพมรณะ” ก็คงคุ้นเคยกันดีว่าอาจารย์ชอบวาดตัวละครของเขาในแฟชั่นแนวต่างๆ ลงปกของตอนอยู่เสมอ โดยแต่ละลุคที่ออกมานั้นก็เข้ากับคาแรคเตอร์แต่ละคนเป็นอย่างมาก
ซึ่งหากจะพูดเรื่องแฟชั่นและการออกแบบตัวละครของ Bleach แล้ว คอลเลคชั่น Carnival x Bleachก็จัดเต็มเรื่องดีไซน์และเทคนิกที่มั่นใจได้ว่าแฟนๆ จะต้องเห็นแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
เรียกน้ำย่อยกันไปพอสมควรเเล้ว วันเสาร์ที่ 4 มีนาคมนี้ เตรียมตัวพบกับคอลเลคชั่นสุดมันส์ Carnival x Bleach ที่จัดเต็มด้วยไอเทมสุดเท่จากเหล่าตัวละครมากมาย พร้อมก้าวผ่านประตูเซนไคมงกันอีกครั้งหรือยัง? เหล่ายมทูตทั้งหลายห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!